ตีนเป็ดทะเล
ตีนเป็ดทะเล

ตีนเป็ดทะเล ชื่อสามัญ Pong
pong
ตีนเป็ดทะเล ชื่อวิทยาศาสตร์ Cerbera
odollam Gaertn. (คาร์เบอรา โอดอลลาม) จัดอยู่ในวงศ์ตีนเป็ด (APOCYNACEAE)
สมุนไพรตีนเป็ดทะเล มีชื่อท้องถิ่นอื่น
ๆ ว่า ตุม ตูม พะเนียงน้ำ (กาญจนบุรี), สั่งลา
(กระบี่), ตีนเป็ด ตีนเป็ดน้ำ (ภาคกลาง), มะตะกอ (มลายู-นราธิวาส) เป็นต้น
ลักษณะของตีนเป็ดทะเล
ต้นตีนเป็ดทะเล
มีถิ่นกำเนิดในอินเดียจนถึงทางตอนใต้ของจีน
มีเขตการกระจายพันธุ์ตั้งแต่ประเทศศรีลังกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภูมิภาคมาเลเซีย หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกและนิวแคลิโดเนีย
ส่วนในประเทศไทยนั้นจะพบได้เฉพาะทางภาคใต้ โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็ก
ทรงร่ม เรือนยอดเป็นทรงกลมทึบ มีความสูงของต้นประมาณ 5-15
เมตร ลำต้นแตกกิ่งต่ำ เปลือกลำต้นเรียบเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทา
มีช่องระบายอากาศเป็นร่องยาว มีน้ำยางสีขาวข้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดแก่
(เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด) ปลูกได้ดีในดินทั่วไป ชอบแสงแดดเต็มวัน
เจริญเติบโตได้เร็ว ไม่ต้องการการดูแลมาก มักพบขึ้นตามบริเวณริมน้ำ ตามป่าชายเลน
ป่าบึงน้ำจืด และป่าชายหาด


ใบตีนเป็ดทะเล ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกันหนาแน่นที่ปลายกิ่ง
ลักษณะของใบเป็นรูปรียาวหรือเป็นรูปใบหอกแกมรูปไข่ ปลายใบมีติ่งหรือหางใบแหลม
โคนใบสอบหรือเป็นรูปลิ่ม ส่วนขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ
2.4-8 เซนติเมตรและยาวประมาณ
8.9-30 เซนติเมตร ใบเป็นสีเขียวเข้ม หลังใบเรียบเกลี้ยงเป็นมัน
มีเส้นแขนงใบประมาณ 12-25 เส้น เห็นเส้นใบได้ชัดเจน
ส่วนท้องใบเรียบ ก้านใบยาวประมาณ 3 เซนติเมตร

ดอกตีนเป็ดทะเล
ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ช่อดอกยาวประมาณ 8-35 เซนติเมตร
แต่ละช่อมีดอกหลายดอก ประมาณ 10-14 ดอก ดอกย่อยเป็นสีขาว
ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ก้านดอกยาวประมาณ 1-4 เซนติเมตร
มีกลีบดอก 5 กลีบ เรียงซ้อนทับกันด้านซ้ายในตาดอก
ปลายกลีบดอกแหลม ดอกบานมีแต้มเหลืองรอบปากหลอดกลีบดอก หลอดกลีบยาวประมาณ 1-2
เซนติเมตร แฉกกลีบยาวประมาณ 1.2-3.8 เซนติเมตร
ดอกมีเกสรเพศผู้ 5 ก้านติดกลางหลอดกลีบดอก
ส่วนกลีบรองดอกหรือกลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ
ลักษณะเป็นรูปแถบหรือรูปใบหอก กลีบยาวประมาณ 0.8-2.5 เซนติเมตร
ปลายกลีบเรียวแหลม เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดกว้างประมาณ 6-7 เซนติเมตร


ผลตีนเป็ดทะเล
ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม หรือค่อนข้างกลมรีเป็นสองพูตื้น ๆ ผลเป็นผลสดแบบมีเนื้อ
มีขนาดกว้างประมาณ 6 เซนติเมตรและยาวประมาณ
7 เซนติเมตร ผิวผลเรียบเนียนเป็นมันและมีจุดเล็ก ๆ
สีขาวกระจายทั่วไป ผลอ่อนเป็นสีเขียว
เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มถึงสีม่วงเข้ม ภายในผลมีเมล็ดขนาดใหญ่ประมาณ 1-2
เมล็ด เมล็ดแข็ง เบา และลอยน้ำได้




สรรพคุณของตีนเป็ดทะเล
- เมล็ดมีฤทธิ์ต่อหัว ช่วยบำรุงหัวใจ (เมล็ด)
- รากช่วยแก้ลม แก้ลมให้กระจาย (ราก)
- แก่นมีรสเฝื่อน ช่วยกระจายลม กระจายเลือด กระจายลมอันฑพฤกษ์ แก้ลมอัณฑพฤกษ์ (ลมที่ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้) (แก่น)
- ช่วยแก้โลหิตพิการ (ดอก)
- ใบมีรสเฝื่อน ช่วยแก้ไข้หวัด แก้ไข้ตัวร้อน (ใบ) ดอกใช้เป็นยาแก้ไข้ตัวร้อน (ดอก) เปลือกต้นและทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ ไข้หวัด แก้ไข้เพื่อดีพิการ แก้หวัด (เปลือกต้น, ทั้งต้น) ส่วนน้ำมันจากเมล็ดใช้ทามีสรรพคุณแก้หวัด (น้ำมันจากเมล็ด)
- รากมีรสเฝื่อน ช่วยขับเสมหะ (ราก)
- รากช่วยแก้อาเจียน (ราก) ผล เมล็ด ใบ เปลือกต้น และทั้งต้นมีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ผล, เมล็ด, ใบ, เปลือกต้น, ทั้งต้น)
- ใบและทั้งต้นแก้อาเจียนเป็นเลือด (ใบ, ทั้งต้น)
- ช่วยแก้หลอดลมอักเสบ (เปลือกต้น)
- ช่วยขับผายลม (ราก)
- ช่วยแก้อาการบิด (เปลือกต้น)
- ช่วยสมานลำไส้ (เปลือกต้น)
- ผล เมล็ด ใบ เปลือกต้น และทั้งต้นมีรสเฝื่อน ใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย (ผล, เมล็ด, ใบ, เปลือกต้น, ทั้งต้น)
- ใบใช้เป็นยาฆ่าพยาธิ ส่วนเปลือกต้นใช้ขับพยาธิไส้เดือน (ใบ, เปลือกต้น)
- เปลือกต้นช่วยแก้นิ่ว ขับนิ่ว (เปลือกต้น)
- ดอกมีรสเฝื่อน ใช้แก้ริดสีดวงทวาร (ดอก)
- ยางสดจากต้น เมื่อนำมาผสมกับน้ำมันต้นไม้ยางนา ผสมเคี่ยวให้สุก ใช้เป็นยาแก้แผลเน่าเรื้อรัง (ยางสดจากต้น)
- ใบใช้รักษาโรคผิวหนัง แก้กลากเกลื้อน ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ) ส่วนกระพี้มีสรรพคุณแก้เกลื้อน (กระพี้)
- น้ำมันจากเมล็ดใช้เป็นยาทาถูนวดทำให้ร้อนแดง ช่วยแก้อาการคันได้ (น้ำมันจากเมล็ด)
- เมล็ดและน้ำมันจากเมล็ดช่วยแก้หิด (เมล็ด, น้ำมันจากเมล็ด)
- ผลแห้งนำมาเผาไฟตำผสมกับน้ำมันพืช ใช้ทาแก้ตาปลา รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง (ผล)
- ช่วยรักษาโรคกลัวน้ำ (ผล)
- ช่วยระงับอาการปวด (ผล)
- ผลสดนำมาขยี้ใช้ทาแก้อาการปวด ปวดตามข้อ และแก้อาการปวดตามกล้ามเนื้อ (ผล)
- แก่นช่วยแก้อัมพาต (แก่น)
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของต้นตีนเป็ดทะเล
1. มีฤทธิ์ในการกระตุ้นหัวใจ
สามารถนำไปใช้กระตุ้นหัวใจ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านมะเร็ง ลดปฏิกิริยาตอบสนอง
แก้อาการปวด ต้านการชัก เสริมฤทธิ์ยานอนหลับ
2. จากการทดสอบความเป็นพิษพบว่าเมื่อฉีดสารสกัดจากใบตีนเป็ดน้ำเข้าทางช่องท้องของหนูถีบจักร
พบว่าในขนาดที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งหนึ่งคือ 20.8 กรัมต่อกิโลกรัม
ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรตีนเป็ดทะเล
1. ผล เนื้อในผล ใบ
และน้ำยางจากต้นมีฤทธิ์ทำให้อาเจียนและเป็นยาถ่าย ยาระบาย
หากรับประทานมากอาจทำให้เสียชีวิตได้
2. ยางจากต้น ใบ ผล
และเนื้อในผลมีพิษเป็นอันตราย (ยางจากต้นและผลมีสาร Cerberoside และ Thevobioside ที่เป็นพิษต่อหัวใจ)
ไม่ควรสัมผัสโดยตรงเพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง
โดยควรระมัดระวังในการเด็ดใบและทำให้ต้นเกิดแผล[3],[6],[7],[8] น้ำยางของตีนเป็ดน้ำหากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้
3. เมล็ดมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายและเป็นยาทำให้แท้งบุตรได้
4. เนื้อในเมล็ด (kernel) มีสารที่เป็นพิษ ได้แก่ thevetin B, thevobioside โดยออกฤทธิ์ระคายเคืองต่อเยื่อบุในปากและกระเพาะอาหารก่อน
แล้วค่อยตามด้วยอาการอาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะและมีอาการปวดท้อง
หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากและล้างท้องไม่ทัน
สารพิษจะถูกดูดซึมผ่านลำไส้และแสดงพิษต่อหัวใจ
ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับชนิดของไกลโคไซด์
โดยวิธีการรักษาเบื้องต้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อทำการล้างท้องและรักษาไปตามอาการ
5. เมล็ดตีนเป็ดทะเลมีรสขม
มีสารที่ออกฤทธิ์ต่อหัวใจที่เรียกว่าสาร “คาร์เบอริน”
(Cerberin) ซึ่งเป็นตัวยาที่มีโครงสร้างเดียวกันกับที่ใช้ในยากระตุ้นหัวใจ
โดยมีการนำมาใช้ในการวางยาพิษโดยผสมกับอาหารที่มีรสจัด
หากได้รับในปริมาณมากก็สามารถฆ่าคนได้เลย
เพราะสารดังกล่าวจะไปสกัดกั้นช่องทางเดินของแคลเซียมไอออนในกล้ามเนื้อหัวใจ
ทำให้ไปรบกวนกระบวนการเต้นของหัวใจ และแม้จะเสียชีวิตด้วยตีนเป็ดน้ำ
แต่อายุรแพทย์ก็ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าผู้ตายเสียชีวิตด้วยตีนเป็ดน้ำจริงหรือไม่
จนกว่าจะมีหลักฐานว่าผู้ตายรับประทานเข้าไปจริง ๆ
ดังนั้นมันจึงถูกนำมาใช้ในการฆาตกรรมที่ดูแนบเนียน
ประโยชน์ของตีนเป็ดทะเล
1. เมล็ดมีรสเฝื่อนเมา
ใช้เป็นยาเบื่อปลา ส่วนน้ำมันจากเมล็ดใช้เป็นยาฆ่าแมลง
2. ผล เมล็ด
และน้ำมันจากเมล็ดใช้ทำเป็นยาใส่ผมแก้ผมหงอก รักษาขน
3. น้ำมันจากเมล็ดใช้ใส่ผมเป็นยาแก้เหา
โดยใช้ส่วนผสมของเมล็ดตีนเป็ดน้ำกับน้ำในอัตราส่วน 1:1
เมื่อนำไปฆ่าเหาให้ใช้ชโลมผมทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง
จะทำให้เหาทั้งหมดตายและไข่ฝ่อทั้งหมด
โดยเมล็ดจากลูกตีนเป็ดน้ำจะมีประสิทธิภาพในการกำจัดเหาได้ดีกว่ายาฆ่าเหาที่ใช้สารเคมีที่มีวางขายตามท้องตลาด
และมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าการใช้ใบน้อยหน่า เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการชโลมผมน้อยกว่า
อีกทั้งยังมีความปลอดภัยมากกว่าอีกด้วย
4. เมล็ดใช้ทำเป็นไม้ประดับแห้ง
5. ต้นตีนเป็ดน้ำมีทรงพุ่มสวยงาม
ผลและดอกสวย ดอกมีกลิ่นหอม ใบไม่ค่อยหลุดร่วง
จึงใช้ปลูกเป็นไม้ให้ร่มเงาตามลานจอดรถหรือริมถนนได้ หรือจะใช้ปลูกเป็นไม้ประดับตามริมสระว่ายน้ำ
ริมทะเล ฯลฯ ก็ได้เช่นกัน
แต่ยางจากต้นเป็นอันตรายจึงไม่ควรปลูกใกล้กับสนามเด็กเล่นหรือบริเวณที่มีเด็กอยู่
เอกสารอ้างอิง : เว็บไซต์เมดไทย (MedThai). “โกงกางใบใหญ่”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://medthai.com/. [15 ก.ย. 2561].
( จัดทำโดย
นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี )
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น