ตะบูนขาว


ตะบูนขาว

ตะบูนขาว

ตะบูนขาว


ตะบูนขาว ชื่อวิทยาศาสตร์ Xylocarpus granatum J. Koenig จัดอยู่ในวงศ์กระท้อน (MELIACEAE)
สมุนไพรตะบูนขาว มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า กระบูน กระบูนขาว ตะบูน ตะบูนขาว (ภาคกลาง, ภาคใต้), หยี่เหร่ (ภาคใต้), ตะบันขาว เป็นต้น โดยสามารถพบได้ตามชายฝั่งทะเลในเขตร้อนชื้น ตั้งแต่แอฟริกา เอเชีย ไปจนถึงออสเตรเลีย

ลักษณะของตะบูนขาว

ต้นกระบูนขาว จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 10-15 เมตร เป็นไม้ผลัดใบแต่ผลิใบใหม่ได้เร็ว ลักษณะของต้นเป็นทรงเรือนยอดแผ่กว้าง มีรูปร่างไม่แน่นอน เพราะลำต้นมักคดงอ ส่วนที่โคนต้นมีลักษณะเป็นพูพอน เปลือกต้นมีสีเทาหรือสีเทาอมขาว หรือเป็นสีน้ำตาลแดง เปลือกแตกล่อนเป็นแผ่นบาง ๆ คล้ายกับเปลือกต้นตะแบก เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในน้ำกร่อย มักขึ้นปะปนอยู่กับพันธุ์ไม้ป่าชายเลนหลายชนิด เช่น หัวสุมดอกขาว ไม้พังกา ถั่วดำตาตุ่มทะเล และไม้โกงกางใบเล็ก
ต้นตะบูนขาว


ใบตะบูนขาว

มีใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่เรียงสลับกัน มีใบย่อยเรียงตรงข้ามอยู่ 2 คู่ ลักษณะเป็นรูปไข่กลับ กว้างประมาณ 4.5-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6-12 เซนติเมตร ปลายใบมน ส่วนโคนใบเรียวสอบ แผ่นใบมีลักษณะหนาและเปราะ ส่วนขอบใบโค้งลงและเป็นคลื่นเล็กน้อย ส่วนเส้นแขนงของใบมีอยู่ข้างละ 6-9 เส้น ก้านใบสั้นมีสีน้ำตาล ยาวประมาณ 3-5 มิลลิเมตร
ใบตะบูนขาว

ดอกตะบูนขาว 

ดอกมีสีขาวอมเหลือง ส่งกลิ่นหอมในช่วงบ่ายถึงค่ำ ดอกออกรวมเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงตามซอกใบ กลีบเลี้ยงเป็นรูปสามเหลี่ยมสั้นมี 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ เมื่อดอกบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 1-1.2 เซนติเมตร ออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน
ดอกตะบูนขาว

ผลตะบูนขาว 

ผลแห้งแตก ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม ผลแข็งมีสีน้ำตาล มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15-20 เซนติเมตร หนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม ส่วนก้านผลยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร โดยตะบูนขาวและตะบูนดำจะมีร่องตามยาวของผล 4 แนว หรือแบ่งเป็น 4 พูเท่า ๆ กัน แต่ละผลมีเมล็ดประมาณ 4-17 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปเหลี่ยมโค้งนูนปลายแบบประสานเข้าเป็นรูปทรงกลม หนึ่งด้านกว้างประมาณ 6-10 เซนติเมตร จะติดผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกุมภาพันธ์
ผลตะบูนขาว
รูปตะบูนขาว
ลูกตะบูนขาว
ตะบูน

สรรพคุณของตะบูนขาว


1. ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย (เปลือก, เมล็ด)
2. ช่วยแก้อหิวาต์ (เปลือก, ผล)[1] แก้อหิวาตกโรค (ผล)
3. เปลือกและเมล็ดมีสรรพคุณเป็นยาแก้อาการไอ (เปลือก, เมล็ด)
4. ช่วยแก้อาการท้องร่วง (เปลือก, เมล็ด)
5. ใช้เป็นยาแก้บิด (เปลือก, เมล็ด)
6. เปลือกและเมล็ดใช้ต้มเพื่อใช้ชะล้างแผล (เปลือก, เมล็ด)

ประโยชน์ของตะบูนขาว

1. เปลือกให้น้ำฝาด ใช้สำหรับย้อมผ้า
2. เนื้อไม้มีสีขาว สามารถนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งได้

เอกสารอ้างอิง : เว็บไซต์เมดไทย (MedThai).  “โกงกางใบเล็ก”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: https://medthai.com/.  [5 ส.ค. 2561].
 ( จัดทำโดย นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี )

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พังกาหัวสุมดอกแดง

โกงกางใบเล็ก

น้ำนอง