งาไซ

งาไซ

โกงกางบก

งาไซ

งาไซ ชื่อวิทยาศาสตร์ Planchonella obovata (R.Br.) Pierre (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Pouteria obovata (R.Br.) Baehni, Pouteria obovata var. dubia (Koidz. ex Nakai) H.Hara) จัดอยู่ในวงศ์พิกุล (SAPOTACEAE)
งาไซ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า สันขวาน (ลำปาง), อุ้งไก่ (สมุทรปราการ), โกงกางบก (ชลบุรี), โพอาศัย (ระนอง), งาไซ มะดินทราย (สงขลา), งาไซ (สุราษฎร์ธานี), มะดินทราย (สงขลา), ทีไร (ปัตตานี), พังกาบก (ภาคใต้), จันทิตสอ (ทั่วไป) เป็นต้น

ลักษณะของงาไซ

ต้นงาไซ จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ทรงพุ่ม มีลักษณะเป็นทรงกรวย เปลือกลำต้นเป็นสีเทาแดง พบขึ้นในป่าชายเลน ในบริเวณติดต่อกับป่าชายหาด
ต้นโกงกางบก

ใบงาไซ 

ใบเป็นใบเดี่ยว ผิวใบเรียบเป็นมัน สีเขียว ส่วนก้านใบเป็นสีน้ำตาลอมแดง

ใบโกงกางบก

ดอกงาไซ 

ออกดอกเป็นช่อกระจุก โดยจะออกตามง่ามใบ ฐานรองดอกมีลักษณะเป็นรูปถ้วย ดอกมีขนาดเล็ก
ดอกโกงกางบก

ผลงาไซ 

ผลเป็นผลเดี่ยว ลักษณะกลมรี มีขั้วเล็กน้อย ผิวผลเรียบ ผลเป็นสีเขียวและเป็นมัน กลีบเลี้ยงติดทนจนเป็นผล ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด
ผลโกงกางบก

สรรพคุณของงาไซ

ชาวโอรังอัสลีในรัฐเประ ประเทศมาเลเซีย จะนำใบมาบดใช้พอกรักษาอาการปวดศีรษะ (ใบ)

ประโยชน์ของงาไซ

เนื้อไม้มีความแข็ง สามารถนำมาใช้ทำเครื่องมือเครื่องใช้ได้ เช่น ด้ามขวาน ด้ามจอบ และใช้ทำเครื่องเรือนทั่วไป

เอกสารอ้างอิง : เว็บไซต์เมดไทย (MedThai).  “โกงกางใบเล็ก”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: https://medthai.com/.  [14 ก.ย. 2561].


 ( จัดทำโดย นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี )

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พังกาหัวสุมดอกแดง

โกงกางใบเล็ก

น้ำนอง